วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ตอนที่๔ ความสำคัญของเปอร์เซ็นต์น้ำยาง

๓ อาทิตย์ผ่านไปสำหรับบ่าวเอ็มที่ลงปฏิบัติงานในพื้นที่ จากสถิติที่จดบันทึกทำให้เห็นว่ามีอัตราการเพิ่มน้ำยางจาก ๙ กิโล มาเป็น ๑๐ กิโล เพิ่มขึ้น ๑ กิโล ทั้งนี้ยังสรุปไม่ได้จากเกิดจากบ่าวเอ็มหรือสภาพดินฟ้าอากาศที่มีฝนตกบ่อยขึ้นกันแน่ จึงมองลงไปที่เปอร์เช็นต์น้ำยาง ที่ยังคงที่ในระดับ ๓๙ เปอร์เซ็นต์ นับว่าดีกว่าสวนในละเวกนี้ กล่าวถึงวิธีการคิดเปอร์เซ็นต์น้ำยางเขาทำกันอย่างนี้ครับ นำน้ำยางมาชั่ง ในอัตรา ๘.๕ ขีด แล้วนำไปอบเวลา ๓ นาที ซึ่งจะได้น้ำหนักยางแห้งจึงนำไปคูณกับราคา ดังสูตรนี้ครับ (น้ำยางสดที่ตัดได้ ๙ กิโลกรัม)
นำน้ำยางสด ๑๐๐ กรัม อบ ๓ นาที เหลือ ๔๐ กรัมเท่ากับ ๔๐เปอร์เซ็นต์
นำยางสดทั้งหมดที่ตัดได้ ๙ กิโล คูณ ๔๐ เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ ๓.๖ คือยางแห้ง และนำ๓.๖ คูณราคายางที่ซื้อขายในปัจจุบันเช่น ๓.๖คูณ ๑๐๔ บาท เท่ากับ ๓๗๔ บาท
ในวงจรของการค้าขายก็ต้องมีการกำหนดราคาเช่นเดียวกับผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ จึงได้มีสูตรในการคิดดังนี้
ผู้ชื้อจะหักราคาไว้ ที่๑๕ เปอร์เช็นต์ของน้ำยาง
เท่ากับนำยางสดขึ้นชั่งจริงที่ ๘๕ กรัม คูณ ๔๐ เปอร์เซ็นต์ จะเหลือ แค่ ๓๔ เปอร์เซ็ตน์ น้ำยางที่ตัดได้ ๙ กิโลคูณ ๓๔ เปอร์เซ็นต์ คงเหลือ ยางแห้ง ๓ กิโล คูณราคาชื้อขาย ๑๐๔ บาท เท่ากับ ๓๑๒ บาท ซึ่งมีผลต่างที่ ๖๒ บาท
แต่ถ้าผู้ชื้อหักราคาที่ ๑๕ เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินจะอยู่ที่ ๓๗๔*๑๕% = ๕๖ บาท
อันนี้ต้องขึ้นกับอนาคตของชาวสวนยาง
แต่สิ่งที่ชาวสวนยางต้องคำนึงถึงเพราะว่าหลายสวนเปอร์เซ็นต์น้ำยางอยู่ที่ ๒๕ ถึง ๒๗ แค่นั้นเอง ลองดูครับ
น้ำยาง ๙ กิโล คูณ ๒๗ เปอร์เซ็นต์ เท่ากับยางแห้ง ๒.๔ คูณราคา ๑๐๔ เท่ากับ ๒๔๙ บาท ส่วนต่าง ๓๗๔ ลบ ๒๔๙ เท่ากับ ๑๒๕ บาท



ครับที่แสดงให้เห็นมาคงจะมองภาพเห็นน่ะครับว่า ในเวลาเท่ากันของการกรีดยางในแต่ละวัน เปลือกที่สิ้นเปลืองไปก็เท่ากัน แต่ผลมันแตกต่างกัน ผมจึงคิดว่าเราต้องมองไปถึงเรื่องเปอร์เซ็นต์น้ำยางให้มากมากนี้หน่อย
 “คิดอะไรอยู่เหรอ พ่อสื่อ” เสียงต้นยางโสด ข๒ ดังขึ้น
สื่อ.... “ก็เรื่องระหว่างเปอร์เซ็นต์น้ำยางกับปริมาณอยู่ครับ”
“แล้วมันต่างกันอย่างไร”
“ทุกวันนี้ทุกคนไม่ได้สนใจเรื่องเปอร์เซ็นต์น้ำยางกันมากนักครับ  คิดแค่ว่าวันนี้น้ำยางออกมาก ได้เงินมาก ที่จริงมันไม่ใช่หากคิดที่เวลาแล้วมันขาดทุนเห็น ๆ  เพราะ เวลาในการตัด และการเก็บเท่ากัน แต่เปอร์เซ็นต์ที่ดีครับ คือความต่าง”
“พ่อสื่อกำลังคิดว่าจะทำให้พวกเราสามารถผลิตน้ำยางให้มีเปอร์เซ็นต์ดีเท่ากันหรือ”
“ครับเป็นเรื่องที่ผมกำลังคิดอยู่”
“พ่อสื่อต้องเข้าใจไว้อย่างหนึ่งน่ะ หากเปรียบเป็นคน บางคนเกิดมาพ่อแม่เดียวกัน อยู่ในสังคมเหมือนกัน โรงเรียนเดียวกันทำงานที่เดียวกัน สุดท้ายเป็นฝาแฝดกันก็ได้ แต่การทำงานหรือความชอบต่างกัน ผลของมันมีน้อยมากที่จะเหมือนหรือประสบความสำเร็จที่เหมือนกันได้”
สื่อ.. “ถูกต้องครับผมพอจะมองภาพเห็น แต่ในอีกมุมหนึ่ง ทุกคนทุกต้น หากเปรียบเป็นต้นยางแล้ว บางทีความหลากหลายเป็นเรื่องใหม่ และทางใหม่สำหรับต้นยางมากกว่า เพราะต้นยางเองก็เปรียบได้เหมือนคนที่กล่าวมา คือสายพันธุ์เดียวกันอยู่ในที่เดียวกันกินอาหารเหมือนกัน แต่ผลผลิตต่างกัน มันก็ไม่ต่างจากคนหรอกครับ”
“ฮ้าว แล้วพ่อสื่อจะทำอย่างไร”
“ผมจะนำความผิดพลาดของสังคมของคนในปัจจุบัน มาปรับปรุงสังคมของต้นยางใหม่”
“ไปกันใหญ่แล้ว จะทำอย่างไรได้ในเมื่อคนที่ผ่านๆมาก็ยังทำไม่ได้” เสียงสูงเน้นขึ้นจากต้นยาง โสด ข ๒
“ไม่จริงหรอกครับ มีคนทำ แต่สื่อตรงนั้นมันมีน้อย หรือทำแต่ไม่มีสื่อให้คนอื่นรับทราบ”
“แล้วพ่อสื่อมีวิธีการอย่างไร เมื่อมองไม่เห็นทาง”
“เพราะไม่มีทางซิครับ เราจึงต้องสร้างทางขึ้นมาใหม่การยึดหลักมันดี แต่อย่าติดหลัก การยึดหมายถึง การจับพร้อมคลายออกบ้าง มีแนวคิดแนวทำไว้บาง แต่ติดหลัก มันต้องทำอย่างเดียว อย่างที่หลักว่ามา มันไม่ถูก วันนี้ฟ้าดินเปิดเพราะสวนเราอยู่ตรงกลาง ข้างขวาใช้ปุ๋ยเคมีล้วน ข้างช้ายใช้อินทรีย์ล้วน แต่เราใช้ ชีวภาพ บวก อินทรีย์”
“ฮ้าวปุ๋ยมันมีกี่ประเภทกันเนี้ย ฟังแล้วงงๆ” เสียงจากต้นยาง โสด ข๓ ดังขึ้นมา
สื่อ....“ปุ๋ยแบ่งออกใหญ่ ๆ ที่ผมรู้มี ๓ ประเภท คือ
๑.   เคมี เกิดจากการสังเคราะห์
๒. อินทรีย์ เกิดจากการหมักการย่อยสลายของซากพืช ซากสัตว์ มูลต่างๆ
๓.  ชีวภาพ เกิดจากสิ่งมีชีวิต
แต่บางคนบางกลุ่มก็แบ่งไปถึงห้าประเภทในแก่
๔.อินทรีย์สกัด เอาแต่สิ่งที่ต้องการ
๕.อินทรีย์เคมี เอาอินทรีย์ไปผสมเคมี (อันนี้มั่วสุด)
ที่ว่ามั่วต้องไปฟังอ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร บรรยายเรื่องการเกิดบนโลกมี ๔ ประการคือ
อัณฑชะกำเนิด
ชลาพุชะกำเนิด
สังเสทชะกำเนิด
โอปปาติกะกำเนิด

อัณฑชะกำเนิด  คือการเกิดจากไข่ที่มีเปลือกแห่งฟองเกิด
นี้เราเรียกว่า อัณฑชะกำเนิด

ชลาพุชะกำเนิด คือการเกิดจาก มดลูก เกิด
นี้เราเรียกว่า ชลาพุชะกำเนิด

สังเสทชะกำเนิด เกิดจากการเน่าเสีย ในปลาเน่า ในซากศพเน่า ในขนมบูด หรือในน้ำครำ น้ำเมือก ในเถ้าไคล [ของสกปรก]
นี้เราเรียกว่า สังเสทชะกำเนิด

โอปปาติกะกำเนิด เช่นเทวดา สัตว์นรก มนุษย์บางจำพวก และเปรตบางจำพวก
นี้เราเรียกว่า โอปปาติกะกำเนิด
“แล้วมันเกี่ยวกับต้นยางอย่างพวกเราอย่างไร”
“นี่ซิครับ สิ่งที่ต้องเริ่มทำความเข้าใจกันใหม่หมด เพราะชีวภาพ คือสิ่งที่เกี่ยวเนื่องจากสิ่งที่มีชีวิต เพราะต้นไม้กินอาหารได้จากการเกิดแบบ สังเสทชะโยนิ หรือการกำเนิดที่เป็นไคล อันนี้เป็นวิทยาศาสตร์ที่เข้ารู้กันมานานแล้ว แต่ไม่มีใครมาอธิบายให้ชัดๆ”
“เออๆ ฟังแล้วมันส์ไหนเล่าต่อซิ”
“ครับ การที่ต้นไม้ดูดซับสารอาหารที่เป็นเมือกเหลว น้ำครำ หรือไคล ซึ่งเกิดจากการละลายที่กระทำโดยจุลินย์ทรีย์ เป็นการกินอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุด และความหลากหลายของต้นพืชแต่ละชนิดที่กิน  และคายสารอาหารเหล่านั้นไม่เหมือนกันทำให้เกิดระบบนิเวศในอาหารหลายอย่าง พืชจึงเลือกกินได้ ถ้านึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงภาพตอนงานบุญที่วัดละกัน บางครั้งเราทำอาหารที่เราชอบไปทำบุญ แต่พอพระฉันเพลเสร็จแล้ว กับข้าวที่วางกองอยู่เรียงรายทำให้เราลืมที่จะกินอาหารของตัวเองไปเลย”
“ใช่ๆ มองเห็นภาพออกแล้ว”
“ครับสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องมีกระบวนการ คือการทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน”
“อย่างไรจ๊ะเป็นขั้นเป็นตอน”
“เหมือนกับขั้นบันใดนั้นแหล่ะครับ การขึ้นหมายถึงคั่น และตอนหมายถึงพื้นบันใดที่เรายืนอยู่ เมื่อเราขึ้นไปขั้นหนึ่งแล้วก็ต้องดูว่าพื้นกระดานที่เรายืนอยู่มันมั่นคงหรือป่าว ถ้าไม่มั่นคงเราจะก้าวต่อไปน้ำหนักก็จะตกไปอยู่ทีพื้นกระดาน ถ้าไม่มั่นคงเราก็พลัดตกลงมาแน่นอน การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน”
“แล้วขั้นแรก จะเริ่มอย่างไร”
สื่อ “วันนี้ผมต้องไปตัดหญ้าก่อนครับ แล้วจะรีบขึ้นมาอธิบายให้ฟังต่อไป”



2 ความคิดเห็น:

  1. โดยคนรับซื้อโกงเปอร์เซ็นต์ยางแห้งมาก ทำอย่างไรดี

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ28 มกราคม 2565 เวลา 22:32

    King of Slots: Video Poker Games - Shootercasino.com
    We have the full King of Slots review to tell you about all 제왕카지노 the different features of the game choegocasino at the best casino! Rating: 4.5 · ‎Review by septcasino Shootercasino

    ตอบลบ